วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 9


การสร้างบรรยากาศในห้องเรียน

      การสร้างบรรยากาศในการเรียนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ คือ ต้องทำให้ผู้เรียน เรียนอย่างกระตือรือร้น (active learning) และตระหนักว่าตนกำลังเรียนอะไรอยู่ ครูจะสามารถสร้างบรรยากาศแบบนี้ได้จาก การจัดชั้นเรียน การสร้างแบบเรียนและกิจกรรมในห้องเรียน และการหาเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้พูดถึงสิ่งที่เรียนออกมาเพื่อจะ ได้รับรู้ว่าตัวเขาเองกำลังทำอะไรอยู่ (self - awareness) เช่น การเขียนไดอารี่ที่พูดถึงการเรียน ปัญหาที่พบ และสิ่งที่ได้เรียนการจัดชั้นเรียน ควรจะให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทำงานกลุ่มเพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นกับเพื่อน การสร้าง
แบบเรียนและกิจกรรมในห้องเรียน ควรจะให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเลือกกิจกรรม เลือกการบ้าน และเลือกกลุ่มคนที่เขาอยากจะทำกิจกรรมในห้องเรียนด้วย ผู้เรียนควรจะรู้ว่าเขาถูกคาดหวังให้เรียนอะไรในวิชานั้น เพื่อจะได้รู้ว่าวิธีการเรียนที่เขาเรียนเหมาะสมหรือไม่ และเขาบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ ครูควรจะคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างผู้เรียนว่า เด็กในชั้นมีความสามารถ ความชอบ และมีแรงจูงใจในการเรียนแตกต่างกัน ถ้าหากกำหนดให้เด็กทำงานแบบเดียวกัน คนทุกคนจะเกิดการเรียนรู้ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ครูควรจะให้ความสำคัญกับการสอนให้เด็กตระหนักว่าเขากำลังเรียนอะไร และเรียนอย่างไร
สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต (life-long learning)โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งครูเสมอไป ส่วนผู้เรียนเองจะเกิดการเรียนรู้หรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่ครูจะช่วยสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เหมาะสม

ความหมายของการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
         การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน หมายถึง การจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอน เพื่อช่วยส่งเสริมให้กระบวน การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ตลอดจนช่วยสร้างเสริมความมีระเบียบวินัยให้แก่ผู้เรียน

ความสำคัญของการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
       บรรยากาศในชั้นเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิด ความสนใจในบทเรียนและเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ที่ครูให้ความเอื้ออาทรต่อนักเรียน ที่นักเรียนกับนักเรียนมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรต่อกันที่มีระเบียบ มีความสะอาด เหล่านี้เป็นบรรยากาศที่นักเรียนต้องการ ทำให้นักเรียนมีความสุขที่ได้มาโรงเรียนและในการเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ถ้าครูผู้สอนสามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้เกิดขึ้นต่อนักเรียนได้ ก็นับว่าครูได้ทำหน้าที่ในการพัฒนาเยาวชนของประเทศชาติให้เติบโตขึ้นอย่างสม บรูณ์ทั้งทางด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคม โดยแท้จริง ดังนั้น การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งประมวลได้ดังนี้
1.ช่วยส่งเสริมให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างราบรื่น เช่น ห้องเรียนที่ไม่คับแคบจรเกินไป ทำให้นักเรียนเกิดความคล่องตัวในการทำกิจกรรม
2.ช่วยสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ดีงามและความมีระเบียบวินัยให้แก่ผู้เรียน เช่น ห้องเรียนที่สะอาด ที่จัดโต๊ะเก้าอี้ไว้อย่างเป็นระเบียบ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน นักเรียนจะซึมซับสิ่งเหล่านี้ไว้โดยไม่รู้ตัว
3.ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้เรียน เช่น มีแสงสว่างที่เหมาะสม มีที่นั่งไม่ใกล้กระดานดำมากเกินไป มีขนาดโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสมกับวัย รูปร่างของนักเรียนนักศึกษา ฯลฯ
4.ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างความสนใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดมุมวิชาการต่าง ๆ การจัดป้ายนิเทศ การตกแต่งห้องเรียนด้วยผลงานของนักเรียน
5.ช่วยส่งเสริมการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เช่น การฝึกให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การฝึกให้มีอัธยาศัยไมตรีในการอยู่ร่วมกัน ฯลฯ
6.ช่วยสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนและการมาโรงเรียน เพราะในชั้นเรียนมีครูที่เข้าใจนักเรียน ให้ความเมตตาเอื้ออารีต่อนักเรียน และนักเรียนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
กล่าวโดยสรุปได้ว่า การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนจะช่วยส่งเสริมและสร้างเสริมผู้เรียนใน
ด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคมได้เป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนเรียนด้วยความสุข รักการเรียน และเป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ในที่สุด

บรรยากาศที่พึงปรารถนาในชั้นเรียน
    ในการจัดการเรียนการสอน ผู้สอนต่างปรารถนาให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างราบรื่น และผู้เรียนเกิดพฤติกรรมตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร บรรยากาศในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ความปรารถนานี้เป็นจริง พรรณี ชูทัย (2522 : 261 ? 263)
กล่าวถึงบรรยากาศในชั้นเรียนที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการสอน จัดแบ่งได้ 6 ลักษณะ สรุปได้ดังนี้
1.บรรยากาศที่ท้าทาย (Challenge) เป็นบรรยากาศที่ครูกระตุ้นให้กำลังใจนักเรียนเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในการทำ งาน นักเรียนจะเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและพยายามทำงานให้สำเร็จ
2.บรรยากาศที่มีอิสระ (Freedom) เป็นบรรยากาศที่นักเรียนมีโอกาสได้คิด ได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่มีความหมายและมีคุณค่า รวมถึงโอกาสที่จะทำผิดด้วย โดยปราศจากความกลัวและวิตกกังวล บรรยากาศเช่นนี้จะส่งเสริมการเรียนรู้ ผู้เรียนจะปฏิบัติกิจกรรมด้วยความตั้งใจโดยไม่รู้สึกตึงเครียด
3.บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ (Respect) เป็นบรรยากาศที่ครูรู้สึกว่านักเรียนเป็นบุคคลสำคัญ มีคุณค่า และสามารถเรียนได้ อันส่งผลให้นักเรียนเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและเกิดความยอมรับนับถือตนเอง
4.บรรยากาศที่มีความอบอุ่น (Warmth) เป็นบรรยากาศทางด้านจิตใจ ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จในการเรียน การที่ครูมีความเข้าใจนักเรียน เป็นมิตร ยอมรับให้ความช่วยเหลือ จะทำให้นักเรียนเกิดความอบอุ่น สบายใจ รักครู รักโรงเรียน และรักการมาเรียน
5.บรรยากาศแห่งการควบคุม (Control) การควบคุมในที่นี้ หมายถึง การฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัย มิใช่การควบคุม ไม่ให้มีอิสระ ครูต้องมีเทคนิคในการปกครองชั้นเรียนและฝึกให้นักเรียนรู้จักใช้สิทธิ หน้าที่ของตนเองอย่างมีขอบเขต
6.บรรยากาศแห่งความสำเร็จ (Success) เป็นบรรยากาศที่ผู้เรียนเกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จในงานที่ทำ ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น ผู้สอนจึงควรพูดถึงสิ่งที่ผู้เรียนประสบความสำเร็จให้มากกว่าการพูดถึงความ ล้มเหลว เพราะการที่คนเราคำนึงถึงแต่สิ่งที่ล้มเหลว เพราะการที่คนเราคำนึงถึงแต่ความล้มเหลวจะมีผลทำให้ความคาดหวังต่ำ ซึ่งไม่ส่งเสริมให้การเรียนรู้ดีขึ้น
บรรยากาศทั้ง 6 ลักษณะนี้ มีผลต่อความสำเร็จของผู้สอนและความสำเร็จของผู้เรียนผู้สอนควรสร้างให้เกิดในชั้นเรียน








กิจกรรมที่ 8


ครูมืออาชีพในอุดมคติ

                ครูมืออาชีพในอุดมคติของข้าพเจ้าจะต้องเน้นการสอนให้มีคุณภาพ เพราะว่าคุณภาพการสอนของครูย่อมส่งผลดีต่อนักเรียน และเยาวชนของชาติ การประเมินคุณภาพของครูจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องประเมินจากตัวเด็กและเยาวชนของชาติ ดังคำกล่าวที่ว่าคุณภาพของเด็กสะท้อน คุณภาพของครูดังนั้นครูมืออาชีพควรมีและควรเป็นก็คือ ต้องเน้นคุณลักษณะพื้นฐานนั่นคือ ฉันทะ เมตตา และกัลยาณมิตร ซึ่งถือว่าเป็นคุณภาพพื้นฐานที่สำคัญของครู และพัฒนาการสอนของครูซึ่งเป็นภารกิจหลัก โดยเฉพาะการสอนอย่างมีคุณภาพ นั่นคือ ครูมืออาชีพ จึงต้องมีคุณธรรมโน้มนำ ทำการสอนอย่างมีคุณภาพ มีภาพลักษณ์ของความเป็นครูดี เพื่อพัฒนาศักดิ์ศรีของอาชีพครูสืบไป

ครูมืออาชีพ จึงต้องมีความสามารถต่อไปนี้

1. สามารถประยุกต์ใช้ยุทธศาสตร์ และการจัดระบบ ได้อย่างเหมาะสมกับการเรียนรู้และความต้องการทางการศึกษาของผู้เรียน สภาพแวดล้อมของโรงเรียนและสาระการเรียนรู้ที่สอน

2. สามารถติดตามการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ใช้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เป็นกลุ่มและเป็นชั้น

3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างอิสระ ฝึกการใช้ภาษา คาดหวังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบในการเรียนรู้

4. พัฒนาความสัมพันธ์เชิงจรรยาบรรณ บนพื้นฐานทักษะการสื่อสารที่ดีให้การยอมรับผู้เรียนทุกคน และคาดหวังจะได้รับการยอมรับจากผู้เรียน

5. มีความรู้ที่ทันสมัย และสนับสนุนข้อคิดเห็นที่มีต่อหลักสูตรอย่างกระตือรือร้น

6. เชื่อความสามารถในการเรียนของผู้เรียนทุกคน คาดหวังว่าผู้เรียนทุกคนเรียนรู้และส่งความคาดหวังนี้ไปยังแต่ละบุคคล โรงเรียนและชุมชน

7. กระตือรือร้นในการฝึกผู้เรียนเข้าสู่ประสบการณ์แห่งการเรียนรู้เรื่องที่ผู้เรียนเห็นว่ามีความสำคัญต่อชีวิตของตน

8. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเชื่อมโยง เข้าใจความสัมพันธ์ทั้งภายในและระหว่างสาระการเรียนรู้

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 6

เรียงความเรื่องแม่
เด็กเหล่านี้น่าสงสารจังเลย  เรามาเป็นกำลังใจให้กับพวกเขากัน

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่7

โทรทัศน์ครู

1.สอนเรื่องอะไร ผู้สอนชื่อ ระดับชั้นที่สอน

สอนเรื่อง ธรรมะทันสมัย  โดยใช้ป๊อปอัพ

ผู้สอนคือ . บุญยิน  ศรีระวัตร

ระดับชั้น ประถมศีกษาปีที่ 4

2 . เนื้อหาที่ใช้สอนมีอะไรบ้าง

                เนื้อหาที่ใช้ในการสอนจะเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วิชาพระพุทธศานาซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กทุกวันนี้ไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควาร จึงต้องประยุกต์ให้เนื้อหาในการเรียนให้มีความน่าสนใจขึ้น ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยให้เด็กคิดนึกถึงธรรมะในจิตใจของเด็กสิ่งไหนบ้างที่เราสามารถนำมาใช้ในชีวิติประจำวัน   นำมาสอนตัวเองและบุคลรอบตัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ฯลฯ

3 . จัดกิจกรรมการสอนด้าน (สติปัญญา=IQ, อารมณ์=EQ, คุณธรรมจริยธรรม=MQ)

จากที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เกิดประโยชน์ในด้านการจัดกิจกรรมดังนี้

สติปัญญา = IQ. ในขณะที่อ่านก่อนลงมือทำป๊อปอัพ ระบายสี และ ออกไปเล่าให้เพื่อนฟังหน้าห้องเรียนทำให้ตัวนักเรียนเองเกิดสติปัญญาและความรู้ในเรื่องนั้นๆ อีกทั้งเพื่อนๆก็ได้เรียนรู้ เข้าใจ และสามารถจดจำสิ่งที่เพื่อนๆได้เล่าให้ฟัง เกิดสติปัญญาให้การใช้เครื่องอย่างถูกต้องและขั้นตอนในการทำโดยการมีสติ อีกทังยังนำความรู้ที่ได้ลงมือทำป๊อปอัพไปประยุกต์ใช้ในวิชาอื่นๆ

อารมณ์= EQ. ขณะช่วงระบายสีนั้นทำให้นักเรียนเกิดอารมณ์สุนทรี มีความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดออกมาทางศิลปะ รู้สึกผ่อนคลาย และสนุกสนาน

คุณธรรมจริยธรรม=MQ.นักเรียนมีความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมมีน้ำใจช่วยเหลือในการแสดงออกความคิดเห็นการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียนและนอกห้องเรียน

4. บรรยากาศการจัดห้องเรียน เป็นอย่างไร


บรรยากาศในห้องเรียนจะเป็นแบบสบายๆภายในห้องเรียนสะอาด มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกมีการจัดโต๊ะนั่งจะจัดเป็นกลุ่มให้นักเรียนนั่งเรียน เรียนเป็นกลุ่ม ห้องเรียนโล่งสบาย มีมุมหนังสือ มุมจัดบอร์ด มุมนั่งเล่น จัดอย่างเป็นระเบียบ และอย่างให้นักเรียนศึกษานอกห้องเรียนด้วยเพื่อที่จะฝึกทักษะความรู้ต่างๆมากมายด้วย


               

            
               

กิจกรรมสอบกลางภาค


บทความเรื่อง ความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของดร.สุเมธตันติเวชกุล วารสารทักษิณ
1. ข้อสรุปที่ได้จากบทความนี้

 การที่เราเป็นครูนั้นต้องรู้จักประมาณตนเอง พอเพียงในสิ่งที่ตนมี รู้จักใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต พระองค์ทรงสอนให้เราพอเพียง รู้จักรักษาทรัพยากรธรรมชาติ รู้จักใช้หลักในการดำรงชีวิต ทรงคิดโครงการแก้มลิงในการเสริมสร้างความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นในการที่เราจะไปเป็นครูในภายภาคหน้าเราควรที่จะใช้ชีวิตในหลักเศรษฐกิจพอเพียง พอในสิ่งที่ตนมี ไม่ใช้จ่ายเกินตัว รู้จักเก็บออม กินอย่างมีความสุขโดยการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ปลูกผักไว้กินเอง ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับแนวทางพระราชดำรัสของพรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนกับเด็กได้ โดยนำแนวคิด พระราชดำรัสไปประกอบการเรียนการสอน พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เด็กเห็นภาพอย่างชัดเจนสอนให้นักเรียนตระหนักอยู่เสมอว่าการเรียนรู้ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ให้นักเรียนรู้จักการใช้ชีวิตที่พอเพียง มีวินัยในตนเองรู้จักหน้าที่ของตนเอง มีความรักความสามัคคีซึ่งกันและกัน
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
เราสามารถนำความรู้จากบทความที่ได้นี้ไปเป็นแนวทางในการเรียนการสอน ไว้ให้เด็กเป็นแนวคิดในหลักการดำรงชีวิต เป็นข้อคิดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ

บทความเรื่อง วิถีแห่งสตีฟ จ๊อบ


1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ

การที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จนั้นคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเรียนเก่งเสมอไป แต่ต้องเกิดจากใจรักจึงจะสามารถทำสิ่งนั้นให้ประสบผลสำเร็จได้ และการทำงานจะทำคนเดียวไม่ได้จะต้องมีการร่วมมือกันทำงานของบุคคลหลายกลุ่ม จะได้เกิดความคิดที่แตกต่างและหลากหลายงานจึงจะประสบผลสำเร็จได้ และในการทำงานเราก็ควรที่จะเอาใจใส่คนอื่นด้วย ให้คำปรึกษา แนะนำ ให้สิ่งตอบแทนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงิน ทอง แต่จะเป็นน้ำใจให้กันก็พอก็จะทำให้เกิดความสัมพันธ์กันในกลุ่มที่แน่นหนามากขึ้น

2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร

ดิฉันจะนำความรู้ที่มีทั้งหมดนำไปถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์โดยที่จะไม่หวงวิชา โดยใช้การสอนที่ทำให้นักเรียนทุกคนแสดงความสามารถของแต่ละคนออกมาให้ได้และทำให้เขารู้ว่าเขามีความถนัดด้านใด

ก่อนที่จะสอนจะสอบถามถึงความชอบและถนัดในวิชาที่เรียนและนักเรียนเสนอแนวคิดและสิ่งที่จะเรียนที่แตกต่างกันออกไปแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และจะรักศิษย์ทุกๆคนเท่ากันไม่ว่าเขาจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งก็ตามและจะคอยให้คำปรึกษาเวลานักเรียนมีปัญหาต่างๆ

3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่ที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร

สอนเรื่องความสามัคคี

การเตรียมการสอนเรื่องความสามัคคี

1.ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องความสามัคคี

2.เรียบเรียงข้อมูลความสามัคคีที่จะนำมาสอน

3.เขียนจุดประสงค์การสอน

4.นำข้อมูลมาทำสื่อเรียนการสอน เช่น PowerPoint ใบความรู้แจกนักเรียน เป็นต้น

5.ทำ Mind Map เรื่องความสามัคคี

การสอน

1.นำเสนอสื่อการสอน PowerPoint เรื่องความสามัคคี

2.แจกใบความรู้นักเรียนเรื่องความสามัคคี

3.ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันแล้วให้สรุปสิ่งที่ได้รับแล้วให้ทำ Mind Map เรื่องความสามัคคี

4.นักเรียนนำเสนอ Mind Map เรื่องความสามัคคี หน้าชั้นเรียน

5.เมื่อนำเสนอเสร็จก็ให้บันทึกสิ่งที่ได้รับใบความรู้เรื่องความสามัคคี ที่แจกให้

6. ให้คะแนนความสามัคคีภายในกลุ่มจากการสังเกตของครูในแต่ละกลุ่ม

กิจกรรมพิเศษ


                                                  ความประทับใจในการศึกษาภาคสนาม
สิ่งที่ดิฉันประทับใจมากที่สุดสำหรับการไปภาคสนามในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นฟาร์มโชคชัย ฟาร์มโชคชัยเป็นฟาร์มที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่อำเภอปากช่อง  จังหวัดนครราชสีมา  ภายในฟาร์มจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิง เกษตรให้เราได้เข้าเยี่ยมชมกั         
                              






             สิ่งที่ดิฉันชอบมากที่อย่างหนึ่งคือการรีดนมวัวซึ่งทางฟาร์มได้มีการให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองปฏิบัติด้วยมีการโชว์การแสดงความสามารถของคาวบอย ที่สนุก น่าหวาดเสียว และน่าตื่นเต้นมาก 
บริเวณพื้นที่ในฟาร์ม มีพื้นที่กว้างถึง 2000 ไร่ นับเป็นฟาร์มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะออกเฉียงใต้ มีการพานักท่องเที่ยวชมสวนสัตว์ภายในฟาร์มซึ่งตัวดิฉันได้เข้าไปชมสัตว์และป้อนอาหารให้สัตว์ ซึ่งสัตว์แต่ละตัวต่างมีความน่ารักมาก เช่น กระต่าย กระรอง กวาง อูฐ ฯลฯ