บทความเรื่อง “ความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ของดร.สุเมธตันติเวชกุล วารสารทักษิณ”
1. ข้อสรุปที่ได้จากบทความนี้
1. ข้อสรุปที่ได้จากบทความนี้
การที่เราเป็นครูนั้นต้องรู้จักประมาณตนเอง
พอเพียงในสิ่งที่ตนมี รู้จักใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
พระองค์ทรงสอนให้เราพอเพียง รู้จักรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
รู้จักใช้หลักในการดำรงชีวิต
ทรงคิดโครงการแก้มลิงในการเสริมสร้างความเป็นอยู่ของประชาชน
ดังนั้นในการที่เราจะไปเป็นครูในภายภาคหน้าเราควรที่จะใช้ชีวิตในหลักเศรษฐกิจพอเพียง
พอในสิ่งที่ตนมี ไม่ใช้จ่ายเกินตัว รู้จักเก็บออม
กินอย่างมีความสุขโดยการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ปลูกผักไว้กินเอง
ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับแนวทางพระราชดำรัสของพรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนกับเด็กได้ โดยนำแนวคิด พระราชดำรัสไปประกอบการเรียนการสอน พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เด็กเห็นภาพอย่างชัดเจนสอนให้นักเรียนตระหนักอยู่เสมอว่าการเรียนรู้ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ให้นักเรียนรู้จักการใช้ชีวิตที่พอเพียง มีวินัยในตนเองรู้จักหน้าที่ของตนเอง มีความรักความสามัคคีซึ่งกันและกัน
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
เราสามารถนำความรู้จากบทความที่ได้นี้ไปเป็นแนวทางในการเรียนการสอน ไว้ให้เด็กเป็นแนวคิดในหลักการดำรงชีวิต เป็นข้อคิดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ
เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนกับเด็กได้ โดยนำแนวคิด พระราชดำรัสไปประกอบการเรียนการสอน พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เด็กเห็นภาพอย่างชัดเจนสอนให้นักเรียนตระหนักอยู่เสมอว่าการเรียนรู้ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ให้นักเรียนรู้จักการใช้ชีวิตที่พอเพียง มีวินัยในตนเองรู้จักหน้าที่ของตนเอง มีความรักความสามัคคีซึ่งกันและกัน
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
เราสามารถนำความรู้จากบทความที่ได้นี้ไปเป็นแนวทางในการเรียนการสอน ไว้ให้เด็กเป็นแนวคิดในหลักการดำรงชีวิต เป็นข้อคิดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ
1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
การที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จนั้นคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเรียนเก่งเสมอไป
แต่ต้องเกิดจากใจรักจึงจะสามารถทำสิ่งนั้นให้ประสบผลสำเร็จได้ และการทำงานจะทำคนเดียวไม่ได้จะต้องมีการร่วมมือกันทำงานของบุคคลหลายกลุ่ม
จะได้เกิดความคิดที่แตกต่างและหลากหลายงานจึงจะประสบผลสำเร็จได้ และในการทำงานเราก็ควรที่จะเอาใจใส่คนอื่นด้วย
ให้คำปรึกษา แนะนำ ให้สิ่งตอบแทนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงิน ทอง
แต่จะเป็นน้ำใจให้กันก็พอก็จะทำให้เกิดความสัมพันธ์กันในกลุ่มที่แน่นหนามากขึ้น
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
ดิฉันจะนำความรู้ที่มีทั้งหมดนำไปถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์โดยที่จะไม่หวงวิชา
โดยใช้การสอนที่ทำให้นักเรียนทุกคนแสดงความสามารถของแต่ละคนออกมาให้ได้และทำให้เขารู้ว่าเขามีความถนัดด้านใด
ก่อนที่จะสอนจะสอบถามถึงความชอบและถนัดในวิชาที่เรียนและนักเรียนเสนอแนวคิดและสิ่งที่จะเรียนที่แตกต่างกันออกไปแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน
และจะรักศิษย์ทุกๆคนเท่ากันไม่ว่าเขาจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งก็ตามและจะคอยให้คำปรึกษาเวลานักเรียนมีปัญหาต่างๆ
3.
ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่ที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
สอนเรื่องความสามัคคี
การเตรียมการสอนเรื่องความสามัคคี
1.ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องความสามัคคี
2.เรียบเรียงข้อมูลความสามัคคีที่จะนำมาสอน
3.เขียนจุดประสงค์การสอน
4.นำข้อมูลมาทำสื่อเรียนการสอน เช่น PowerPoint ใบความรู้แจกนักเรียน
เป็นต้น
5.ทำ Mind Map เรื่องความสามัคคี
การสอน
1.นำเสนอสื่อการสอน PowerPoint เรื่องความสามัคคี
2.แจกใบความรู้นักเรียนเรื่องความสามัคคี
3.ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันแล้วให้สรุปสิ่งที่ได้รับแล้วให้ทำ Mind
Map เรื่องความสามัคคี
4.นักเรียนนำเสนอ Mind Map เรื่องความสามัคคี
หน้าชั้นเรียน
5.เมื่อนำเสนอเสร็จก็ให้บันทึกสิ่งที่ได้รับใบความรู้เรื่องความสามัคคี
ที่แจกให้
6.
ให้คะแนนความสามัคคีภายในกลุ่มจากการสังเกตของครูในแต่ละกลุ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น